1.กินแบบไทย
สมัยโบราณ
ครอบครัวไทยนั่งรับประทานอาหารกับพื้น ใช้ผ้าสะอาดหรือเสื่อปูลาดบนพื้นบ้าน
ผู้ที่จะรับประทานนั่งล้อมวงกัน ตักข้าวจากโถใส่จานอาหาร จัดมาเป็นสำรับ
วางสำรับไว้ตรงกลางวง มีช้อนกลางสำหรับตักกับข้าว ใส่จานของตน และเปิบอาหารด้วยมือ
บางบ้านจะมีขันหรือจอกตักน้ำ และกระโถนเตรียมไว้ เพื่อรองน้ำล้างมือด้วย
2.กินแบบกัมพูชา
อาหารกัมพูชาคล้ายกับอาหารไทย
และได้รับอิทธิพลจากอาหารต่างชาติค่อนข้างมาก เช่น
ในเมืองใหญ่จะมีอาหารเวียดนามบริการ เช่น เฝอ ปอเปี๊ยะ ปากหม้อ ข้าวเกรียบอ่อน
ขนมจีนหมูย่าง อาหารประเภทผัดผัก หรืออาหารเส้นได้รับวัฒนธรรมจากประเทศจีน Num
pa-chok ก๋วยเตี๋ยวน้ำ Mee (บะหมี่ไข่เส้นสีเหลือง)
MEE CHAR บะหมี่ผัดแห้ง Katiev char ก๋วยเตี๋ยวผัด
(เส้นทําจากแป้งข้าว)
3.กินแบบบรูไน
อัมบูยัต(Ambuyat)
มีลักษณะเด่นคือ เหนียวข้นคล้ายข้าวต้มหรือโจ๊ก ไม่มีรสชาติ
มีแป้งสาคูเป็นส่วนผสมหลัก วิธีทาน จะใช้แท่งไม้ไผ่ 2 ขาซึ่งเรียกว่า chandas
ม้วนแป้งรอบ ๆ แล้วจุ่มในซอสผลไม้เปรี้ยวที่เรียกว่า cacah หรือซอสที่เรียกว่า cencalu ซึ่งทำจากกะปิทานคู่กับเครื่องเคียงอีก
2-3 ชนิด เช่น เนื้อห่อใบตองย่าง เนื้อทอด เป็นต้น
การรับประทานอัมบูยัตให้ได้รสชาติต้องทานร้อน ๆ และกลืน โดยไม่ต้องเคี้ยว
4. กินแบบพม่า
อาหารพม่ารับวัฒนธรรมมาจากหลายเชื้อชาติ
จากไทย จีน มอญ อินเดียและรัฐฉาน ตัวอย่างอาหารที่ได้รับวัฒนธรรมจากไทยคือเครื่องแกงและกะทิต่างๆ
เปาสี่ หรือซาลาเปา ติ่มซํา ลามอง (ขนมไหว้พระจันทร์) อี่จากเว (ปาทองโก๋)
และการรับประทานก๋วยเตี๋ยวเป็นวัฒนธรรมที่รับจากจีน โดยเฉพาะในเมืองท่าอย่าง
มัณฑะเลย์ ชาวพม่านิยมรับประทานขนมจีนตอนเช้าเช่นเดียวกับชาวมอญ แกงกระหรี่ต่างๆ
แกงสีเบี่ยง (มัสมั่น) รับวัฒนธรรมจากอินเดีย เพียงแต่แกงสีเบียงของพม่านิยมใส่ขิงมากขึ้น
ชาวพม่ารับประทานข้าวเจ้าอย่างไทย
นั่งโต๊ะไม้สูงบนเสื่อไม้ไผ่ แต่ในเมืองใหญ่อาจพบวัฒนธรรมการนั่งโต๊ะอย่างจีน
อาหารพม่ามีหน้าตาคล้ายอาหารไทยแต่นิยมปรุงให้มีน้ำมันมากกว่ามาก
รวมทั้งไม่ชอบรสหวาน ข้าวเหนียวพบทําอาหารหวานเท่านั้น เช่น ข้าวเหนียวเปียกต่างๆ
5. กินแบบฟิลิปปินส์
คนฟิลิปปินส์รับประทานอาหารวันละ
5 รอบ คือ เช้า เที่ยง ค่ า และอาหารว่างระหว่างวันช่วงสายและบ่ายที่เรียกว่า
เมอร์เยียนดา อาหารจานหลักของชาวฟิลิปปินส์คือข้าวเช่นเดียวกันกับชาวไทย จานกับข้าวของฟิลิปปินส์มักมีรสอ่อนไม่เผ็ดร้อนเหมือนกับประเทศอื่นๆในเขตเพื่อนบ้าน
และเน้นรับประทานอาหารที่ท าจากเนื้อมากกว่าผักทั้งเนื้อวัว
เนื้อหมู เนื้อไก่ และเนื้อปลา โดยชาวฟิลิปปินส์นิยมบริโภคหมูหัน (Litson) หรือและปลานวลจันทร์ทะเล
(Bangus) และผักที่ได้รับความนิยมในการบริโภคได้แก่
แครอท มะเขือเทศ ใบมะรุม ใบมันเทศผักบุ้งคนฟิลิปปินส์สมัยใหม่นิยมรับประทานอาหารฟาสท์ฟู้ดจานด่วน
เช่น ข้าวไก่ทอด สปาเกตตี้ พิซซ่าเบเกอรี่จากกลุ่มเครือร้านอาหารอเมริกัน
เช่น แมคโดนัลด์ เคเอฟซีสตาร์บัค โดยระยะหลังมีการสร้างแบรนด์ร้านอาหารท้องถิ่นซึ่งมีเจ้าของเป็นชาวฟิลิปปินส์ที่มักเปิดให้บริการ
24 ชั่วโมง เช่น ร้านฟาสท์ฟู้ดไก่ทอด Jollibeeร้านอาหารฟิลิปปินส์
Inasal ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ
6. กินแบบสิงคโปร์
อาหารสิงคโปร์นั้นราคาประหยัดและหาทานง่าย
ราคาอาหารตามศูนย์อาหารและฟู้ดคอร์ทเริ่มต้นที่ 3 เหรียญ และมีอาหารให้เลือกมากมาย อาทิเช่น หลักซา ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว สะเต๊ะ และข้าวมันไก่
รวมไปถึงภูเขาน้ำแข็งราดน้ำหวานหลากสีสันอย่าง ice kachang ร้านอาหารที่คนสิงคโปร์นิยมในศูนย์อาหารและร้านอาหารทั่วไป
เช่น ศูนย์อาหารในย่านBugis Street
, Lau Pa Sat , Chinatown Food Street และตลอดย่าน Maxwell Road Market แต่ยังมีศูนย์อาหารอร่อยขึ้นชื่ออีกหลากหลายที่กระจายอยู่ในชุมชนต่าง
ๆ
แต่หากต้องการหลบอากาศร้อน
ก็สามารถเลือกทานตามศูนย์อาหารติดเครื่องปรับอากาศ หรือที่ชาวสิงคโปร์เรียกว่า
ฟู้ดคอร์ท ส่วนใหญ่จะอยู่ในห้างสรรพสินค้า
ซึ่งจะเป็นแหล่งรวมอาหารที่หลากหลาย การตกแต่งที่ทันสมัย
แต่อาจจมีปัญหาเรื่องของที่นั่งบางแห่งค่อนข้างแน่น วิธีที่ดีที่สุดคือ
มองหาแล้วนั่งจองที่นั่งกันก่อน ผลัดกันไปเลือกซื้ออาหาร ส่วนฟู้ดคอร์ทที่นิยมกันได้แก่ Bugis Junction, Clarke Quay, Scotts
Picnic Food Court, Takashimaya Food Village, Kopitiam และ
China Square Food Centre
7. กินแบบอินโดนีเซีย
วัฒนธรรมการกินที่ร้านอาหาร
หลังสั่งกับข้าวเรียบร้อยก็จะสั่งเครื่องดื่มกัน
คนอินโดนีเซียไม่นิยมดื่มน้ำที่ใส่น้ำแข็ง ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะสั่งน้ำชาร้อน
ทั้งใส่น้ำตาล และชาร้อนแบบธรรมดา และหากเป็นการกินแบบท้องถิ่นจริงๆ
ก็จะใช้มือเปิบข้าว ถึงแม้จะกินในร้านอาหารก็ตาม แต่สำหรับนักท่องเที่ยว
หรือผู้มาเยือน บนโต๊ะอาหารจะมีช้อนส้อมไว้คอยบริการ
และจะเสิร์ฟอาหารให้ผู้ชายก่อน อาหารยอดนิยมและราคาประหยัดเหมือนบ้านเราคือน้ำพริก
ทั้งที่เป็นน้ำพริกกะปิและที่ไม่ใส่กะปิ เผ็ดมากเผ็ดน้อยก็แล้วแต่ว่าอยู่ทางภาคไหน
แต่ที่แน่ๆ รสหวานนำ พวกเขาเรียกน้ำพริกว่าเซมปัล
ไก่ทอดหรือไก่ผัดกับพริกแกงใส่มันฝรั่ง
ไก่ถือเป็นอาหารประเภทเนื้อหลักราคาถูกของชาวบ้าน ถ้าเทียบกับเนื้อวัว
หรือเนื้อแพะ นอกจากนี้ยังมีเมนูไก่อีกหลายอย่าง รวมถึงแกงมัสมั่นและข้าวหมกไก่ ไม่มีกฎระเบียบ สำหรับการรับประทานอาหารมากนักในกรุงจาการ์ตา
เนื่องจากภาพรวมจาการ์ตาเป็นสังคมที่ค่อนข้างผ่อนคลายในเรื่องศิลปะการรับประทานอาหาร
แต่ควรพึงระลึกว่าไม่ควรใช้มือซ้ายในระหว่างการรับประทานและควรรอให้ผู้เชิญเป็นผู้เริ่มต้นการรับประทานอาหารก่อนเสมอเนื่องจากอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีการนับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่
ในเดือนแห่งการถือศีลอด หรือว่าเดือนรอมฎอน
จึงมีข้อจำกัดพิเศษเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ ที่สามารถรับประทานอาหารได้
แต่อย่างไรก็ตามข้อจำกัดนี้ มีผลเฉพาะเพียงร้านอาหารในท้องถิ่นขนาดเล็ก
ซึ่งมักปิดในช่วงเทศกาลถือศีลอด ส่วนโรงแรมและร้านอาหารยังคงเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวตามปกติตลอดทั้งวัน
8. กินแบบลาว
ลาวเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีวัฒนธรรมการบริโภคใกล้เคียงคนไทยมากที่สุด
เรียกว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ชาวไทยบางชนเผ่าสืบเชื้อสายมาจากลาว พี่น้องลาวบางคนยังอาศัยอยู่ในเมืองไทย
อาหารลาวเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากและมีลักษณะไม่แตกต่างจากอาหารอีสาน
แต่มีบางพื้นที่ของลาวเช่นลาวเหนือ ในหลวงพระบางมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างออกไป
ชาวลาวมีวัฒนธรรมการบริโภคที่เป็นกันเองไม่ยุ่งยาก
ตามธรรมเนียมแล้วชาวลาวจะไม่นั่งโต๊ะสูง จะล้อมวงรับประทานอาหารบนสาด (เสื่อไม้ไผ่)
และทานข้าวบนโตก โดยเรียกว่า พาข้าว (พาเข่า) อาหารจัดมาเป็นสํารับออกพร้อมกันหมด
ใช้มือรับประทานและมีช้อนแกงสําหรับตักอาหาร ชาวลาวเป็นคนมีน้ำใจ
เมื่อมีงานเลี้ยงจะเลี้ยงดูแขกเหรื่อ จัดอาหารมารับรองมากมาย
ด้วยหากจัดอาหารไม่พอแขกจะเป็นที่ขายหน้า
ลาบจัดเป็นอาหารประจําชาติ ในงานเทศกาลรื่นเริง
หรืองานมงคล ชาวบ้านจะมารวมวงช่วยกันทําลาบด้วย คําว่าลาบพ้องเสียงกับคําว่า ลาภ
ซึ่งมีความหมายเป็นสิริ ปกติชาวลาวจะทําลาบจากปลา ไก่ หรือ เป็ด การทําลาบเนื้อมักทํารับประทานกันในงานใหญ่
ส่วนผสมในลาบจะมีผักสมุนไพร มีข่าที่สับไปกับเนื้อลาบ
หรือลาวทางหลวงพระบางจะทําลาบที่มีเครื่องเทศที่มีคุณสมบัติเป็นยาต่างๆ ลาวเวียงจันทน์จะทําลาบ
9. กินแบบมาเลเซีย
มาเลเซียเป็นประเทศหนึ่งในกลุ่มอาเซียนที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ มีภูมิประเทศเป็นป่าเขาและทะเล มีทั้งพืชพันธ์ธัญญาหารสัตว์บก และสัตว์ทะเลมากมาย
กลุ่มคนหลากหลายที่เข้ามาตั้งรกรากในมาเลเซียนำวัตถุดิบทางธรรมชาติเหล่านี้มาปรุงอาหารหวานคาวของกินในมาเลเซียจึงมีหลากหลายตามไปด้วย
อาหารแบบดั้งเดิมของชาวมาเลเซีย คล้ายกับอาหารของคนไทยดั้งเดิม มีข้าว
ปลา น้ำพริก กินแกล้มกับผักสด ด้วยสภาพภูมิประเทศอันกว้างใหญ่ไพศาล บางส่วนเป็นเกาะแก่ง จึงมีตำราอาหารแตกต่างกัน เช่นในรัฐเกด๊ะห์ กลันตัน
ปะลิส และตรังกานู นิยมปรุงรสเปรี้ยวด้วยมะขามเปรี้ยว มะนาว
และรสเผ็ดร้อนด้วยพริกซึ่งได้รับอิทธิพลจากไทย เครื่องผัดทุกจานที่ต้องใส่ เริมปะห์
ซึ่งปรุงจากหอม กระเทียม พริก
ขมิ้นสด
และข่าโขลกให้แหลกเข้ากันก่อนใส่ลงกระทะ
10. กินแบบเวียดนาม
เวียดนามรับวัฒนธรรมการกินอาหารเส้น
กินอาหารแยกข้าวกับกับ การใช้ตะเกียบ การใช้กระทะการนึ่งด้วยลังถึง
และอาหารผัดมาจากชาวจีน แต่นิยมใช้น้ำมันน้อยกว่า รับวัฒนธรรมการเคี่ยวซุป
และการทอดน้ำมันท่วม (Deep fried) จากฝรั่งเศส ขนมปังฝรั่งเศส (Baguette
ขนมปังอบเปลือกนอกแข็งรูปร่างยาว)พบจำหน่ายมากในตลาดและแผงลอย
ชาวเวียดนามนำมาสอดไส้หมู หมูแดง หมูยอ กุนเชียง ตับบด แครอต ไชเท้าดอง ผักต่างๆ
เรียกว่า บันไมทิต (Banh Mi Thit: Vietnamese Baguette)









ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น